ตารางกิจกรรมที่ต้องทำ

วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เกาะทะลุ...สวรรค์ใส ๆ กลางอ่าวไทย



เกาะทะลุ...สวรรค์ใสๆ กลางอ่าวไทย (lisa)
          ต้อนรับลมร้อนแห่งเดือนเมษาด้วยทริปเที่ยวทะเล สู่เกาะเล็ก ๆ กลางอ่าวไทยที่มากมายไปด้วยความสนุก
          เสียงสายลมเกรียวกราวพัดยอดมะพร้าวแข่งกับเสียงเกลียวคลื่น คือสัมผัสแรกเมื่อมาถึงบางสะพานน้อย อำเภอแสนน่ารักแห่งประจวบคีรีขันธ์ ด้วยว่าที่นี่มีหาดทรายยาวเหยียดงามตา เรามุ่งหน้าสู่ท่าเรือบ้านมะพร้าว ลงเรือยอชต์สีขาวสองชั้นมุ่งหน้าฝ่าแดดลมโล้คลื่นสู่ "เกาะทะลุ" ที่มีหาดทรายขาว น้ำใสแจ๋ว ปะการังสวยไม่แพ้ฝั่งทะเลอันดามันแม้แต่น้อย
 มหัศจรรย์เกาะทะลุ
          เพียง 20 กว่านาที เรือก็เทียบท่าบนเกาะทะลุ ฟ้าใสแจ่มเป็นสีครามเข้ม แสงอาทิตย์ส่องทะลุผืนทะเลมรกตลงไปเห็นฝูงปลาตัวน้อยแหวกว่ายอยู่นับพัน ๆ บ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของท้องทะเลที่ยังมีอยู่มาก หลังจากอาหารเที่ยงแบบบุฟเฟต์แสนอร่อยและนั่งพักจนข้าวเรียงเม็ดแล้วก็ได้เวลาเปลี่ยนชุด ลงเรือสปีดโบ๊ตไปดำน้ำและตกหมึก ทว่าก่อนอื่นเราต้องไปชมแลนด์มาร์กและความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของเกาะทะลุกันก่อน นั่นคือ "ช่องทะลุ" ซึ่งมีลักษณะเป็นโพรงขนาดใหญ่ทะลุถึงกันสองด้านแอบอยู่ใต้เพิงผาคล้ายสะพานหิน อันเกิดจากการสึกกร่อนเพราะคลื่นลมกัดเซาะอยู่นับพัน ๆ หมื่น ๆ ปี  หากเรานำแผนที่เกาะทะลุมากางดูจะเห็นว่า เกาะแห่งนี้มีรูปร่างยาวรี หัวท้ายแหลม ตั้งอยู่ในแนวเหนือ-ใต้ โดยชายฝั่งด้านตะวันตกก็คือบริเวณที่มีรีสอร์ท อ่าวงาม ๆ และทิวมะพร้าวร่มรื่น ผิดกับฝั่งด้านตะวันออกที่หันออกสู่ทะเลเปิดจะมีแต่ผาหินสีแดง ลงเล่นน้ำไม่ได้เลย



 ล่องเรือสำรวจเกาะ
          ทางรีสอร์ตพาเราออกเรือเพื่อจะได้ทำความรู้จักกับเกาะทะลุมากขึ้น พบว่าแท้จริงที่นี่มี 4 อ่าวเรียงกันอยู่ด้านตะวันตกของเกาะคือ "อ่าวมุก" อ่าวเล็ก ๆ ที่ยาวเพียง 300 เมตร เต็มไปด้วยความสงบร่มรื่นของทิวมะพร้าวโอนเอน ผู้คนไม่พลุกพล่านเหมาะมานอนอาบแดดเงียบ ๆ ถัดมาคือ "อ่าวใหญ่" ที่ใหญ่สมชื่อเพราะยาวถึง 900 เมตร เป็นหาดยาวที่สุดบนเกาะทะลุ มีบริการเล่นเรือใบ พายเรือคายัค ถัดไปอีกนิดคือ "อ่าวไทรใหญ่" อันเป็นส่วนของพี่พักและ Beach Bar ที่เราไปนั่งสรวลเสเฮฮากันเมื่อคืน สุดท้ายปลายเกาะด้านใต้คือ "อ่าวเทียน" อ่าวเล็ก ๆ สั้น ๆ มีโขดหินสีเข้มกระจายอยู่ทั่วไป หาดนี้ไม่มีที่พัก จึงเงียบสงบเป็นส่วนตัวที่สุด
 ชมปะการัง-ตกหมึก
          รู้จักเกาะสวรรค์แห่งนี้กันดีแล้ว จากนั้นความสนุกสนานก็เริ่มขึ้น เราลงดำน้ำดูปะการังกับฝูงปลาอยู่หน้าช่องทะลุ ที่นี่มีปลาแปลก ๆ สีสวย ๆ ผลัดกันแหวกว่ายมาโชว์ เช่นเดียวกับปะการังแข็งหลากชนิด ทั้งปะการังโขด ปะการังเขากวาง และมีหอยมือเสือตัวเป้ง ๆ ดูน่าตื่นตาตื่นใจดี ไม่นานนักเรือก็แล่นเวียนกลับไปทางตะวันตกของเกาะ แล้วหยุดให้พวกเรา "ตกหมึก"  ซึ่งส่วนมากเป็นหมึกกระดองที่ว่ายอยู่เป็นฝูง ๆ ในน้ำลึก เราจึงต้องใช้ปลาตัวเล็กเกี่ยวเหยื่อแล้วหย่อนสายเอ็นลงไปในน้ำ เมื่อกระตุกสายเอ็นขึ้นลงเป็นจังหวะ ไม่นานก็มีเสียงเฮเพราะได้หมึกแล้ว "นี่ถ้าออกเรือในคืนเดือนมืด แล้วเปิดไฟเรือล่อไว้รับรองว่าจะได้หมึกเพียบเลย" คนเรือเล่าให้ฟัง
          เวลาแห่งความสนุกสนานกับท้องทะเลผ่านไปอย่างรวดเร็ว เผลอนิดเดียวก็เย็นซะแล้ว เรามาดินเนอร์ริมหาดในร้านอาหารกลางแจ้งแสนโรแมนติก ลมทะเลพัดโชยชื่นใจพร้อมกับละเลียดชิมอาหารทะเลสด ๆ อร่อย ๆ ไปด้วย จากนั้นไปนั่งเล่นกันต่อที่ Beach Bar อ่าวใหญ่ ฟังเพลงเบา ๆ เคล้าธรรมชาติช่วยเติมเต็มช่วงเวลาแสนสุขให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ที่นี่ยังมีบริการสอนดูดาวที่กระจ่างอยู่เต็มฟ้าด้วยหากคุณยังไม่ง่วงจนเกินไป

 อำลาเกาะทะลุ
          วัดถัดมาหลังอาหารเช้า เราออกไปสำรวจเกาะกันต่อ พร้อมกับทำกิจกรรมจิตอาสา ช่วยกันปลูกปะการังกลับคืนสู่ท้องทะเล ด้วยการนำก้านปะการังอ่อนติดไว้กับท่อพีวีซี แล้วให้นักประดาน้ำดำลงไปวางไว้ในทะเล รอวันให้มันเติบโตขึ้นทีละน้อยเป็นสมบัติล้ำค่าต่อเติมชีวิตใต้ห้วงน้ำสีครามต่อไป
          เราเดินฝ่าแดดใสกลับมาถึง Beach Bar รีบสั่งเครื่องดื่มเย็น ๆ มาเรียกความสดชื่นคลายร้อน ระหว่างนั่งคุยกันมีประโยคหนึ่งสะกิดใจ "เช้าสบาย สายสนุก ทุกข์ไม่มีที่เกาะทะลุ..." เอ้อ...จริงด้วยนะ ตั้งแต่มาถึงที่นี่เรามีแต่ความสุข ยังไม่มีใครบ่นว่าเบื่อหรืออยากกลับบ้านเลย นี่สิ "เกาะสวรรค์กลางอ่าวไทย" หนึ่งในหัวใจเราอย่างแท้จริง
 Fast Fact
          ฤดูกาล : เกาะทะลุเที่ยวได้ตลอดปี แต่อากาศดีที่สุดช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ท้องฟ้าใส คลื่นลมสงบดี
          การเดินทาง : ช่วงแรก เดินทางด้วยรถยนต์ เริ่มจากอำเภอเมืองประจวบฯ -อำเภอบางสะพานน้อย ระยะทาง 110 กม. ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 จากนั้น เลี้ยวซ้ายที่ กม. 399 เข้าถนนสาย 3497 ผ่านโรงพยาบาลและที่ว่าการอำเภอบางสะพานน้อย จนถึงท่าเรือบ้านปากคลอง หรือท่าเทียบเรือบ้านมะพร้าวรีสอร์ท ซึ่งมีอาคารสำนักงานของเกาะทะลุ รีสอร์ทตั้งอยู่ ช่วงที่สอง นั่งเรือข้ามจากฝั่งไปเกาะทะลุ ถ้าไม่ได้ซื้อแพ็กเกจของเกาะทะลุ รีสอร์ทก็ต้องเหมาเรือประมงของชาวบ้าน ไปดำน้ำแบบ One-Day ค่าเช่าเรือ 3,000-4,000 บาท (ควรเตรียมอุปกรณ์ดำน้ำไปเอง) แต่ถ้าซื้อแพ็กเกจทัวร์ของเกาะทะลุ รีสอร์ท จะมีบริการพาไปดำน้ำด้วย
          ที่พัก : เกาะทะลุเป็นเกาะส่วนตัว มีรีสอร์ทอยู่แห่งเดียว คือ Koh Talu Island Resort สำนักงานหัวหิน โทร. 032-442-636, 08-9744-5639, 08-9744-7995 สำนักงานอำเภอบางสะพานน้อย โทร. 08-9918-3715 http://www.taluisland.com/ บนเกาะมีอาหารบริการครบสามมื้อ สำหรับผู้ที่ซื้อแพ็กเกจ 3 วัน 2 คืน ส่วนใครที่ซื้อแพ็กเกจ One-Day Trip ก็มีบริการอาหารและเครื่องดื่มอย่างครบครัน

ที่มา http://travel.kapook.com/view39939.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น